พาผู้สูงวัยนั่งรถเข็นเดินทางเที่ยวเยอรมัน เชคโก  เทียวชมเมืองน่าสนใจและเหมาะสำหรับพาผู้สูงวัยเที่ยว

#เยอรมันเป็นอีกประเทศที่ให้ความสำคัญกับผู้ที่นั่ง #รถเข็นผู้ป่วย #รถเข็นผู้สูงวัย  tripนี้เที่ยวประเทศเยอรมัน-  มิวนิค,ฟุซเซน(Fussen),เดสเดรน,แฟรงเฟิต  และประเทศ เช็คโกสโลวาเกีย : ปราก ซึ่งอยู่ใน กลุ่มประเทศแชงเกรน

โปรแกรมการเที่ยวสำหรับ พาผู้สูงวัยนั่งรถเข็นเดินทางเที่ยวเยอรมัน เชคโก 

เริ่มจาก กรุงเทพ-มิวนิค  พักมิวนิค 3คืน

มิวนิค-ฟุสเซน(Fussen) ไปเช้า-เย็นกลับ โดยรถไฟ

มิวนิค-เดรสเดรน  พักเดรสเดน 3คืน

เดรสเดน-ปาร์ค-เดรสเดรน  เช้าไป เย็นกลับ โดยรถไฟ

เดรสเดรน-แฟรงเฟิต โดยรถไฟ พัก แฟรงเฟิต 2 คืน

แฟรงเฟิต-ไฮเดนเบิร์ก-แฟรงเฟิต โดยรถไฟ เช้าไป ย็นกลับ

แฟรงเฟิต-กรุงเทพ

• สิ่งที่ควรคำนึงถึงเวลาพาผู้ใหญ่นั่งรถเข็นเดินทางเที่ยว เยอรมัน และ เข็คโก
• มิวนิค ที่เที่ยวที่แนะนำสำหรับพาผู้ใหญ่นั่งรถเข็นเดินทางเที่ยว
  พระราชวังเรสซิเดนซ์ (Residentz)
  จัตุรัสมาเรียนพลัททซ์ (จัตุรัสแม่รี่)
  วิหารเฟราเอ่นเคียร์เช่อ (Frauenkirche)
  พระราชวังนิมเฟนเบิร์ก พระราชวังฤดูร้อน มิวนิค ประเทศเยอรมนี
  

 note

สิ่งที่ควรคำนึงถึงเวลา พาผู้สูงวัยนั่งรถเข็นเดินทางเที่ยวเยอรมัน เชคโก 

• *สำหรับการพาผู้ใหญ่เที่ยวในtripนี้ เหมาะกับผู้สูงวัยที่เดินได้ แต่ใช้รถเข็นเดินทางเพื่ออำนวยความสะดวกในการเที่ยว เนื่องจากเป็น trip ที่ต้องเดินค่อนข้างมาก จึงต้องใช้รถเข็นช่วยในการท่องเที่ยว
• *สำหรับช่วงเวลาที่ไป ควรเลือกช่วงที่ไม่หนาวจัดเกินไป เพราะจะได้ไม่กระทบต่อสุขภาพสำหรับผู้สูงวัย  เช่นประมาณเดือนเมษายน สำหรับผู้เขียนเดินทางเดือนกพ. ค่อนข้างหนาว แต่ก็ได้บรรยากาศสวยไปอีกแบบ
• *เครื่องใช้ที่ควรเตรียมไป
  – กระติกน้ำเล็กๆติดตัวเวลาเที่ยว เนื่องจากน้ำดื่มที่เยอรมันค่อนข้างแพง และเน้นที่น้ำอัดลม ควรเตรียมใส่กระติกโดยลองน้ำดื่มจากก็อกน้ำในโรงแรม สำหรับผู้เขียนเตรียมกระติกต้มน้ำเล็กๆไป เพราะยังไม่ชินกับการดื่มน้ำจากก็อกน้ำ เนื่องจากบางโรงแรมจะไม่มีกระติกต้มน้ำในห้อง 
  – ผ้าอ้อมผู้ใหญ่ เนื่องจากห้องน้ำต้องเสียค่าเข้าเป็นส่วนใหญ่ ประมาณ 20-40บาทไทยต่อครั้ง และอัตราการปัสสาวะสำหรับผู้สูงวัยจะค่อนข้างถี่
  -ถุงผ้าสำหรับใส่สินค้า เนื่องจากร้านค้าในเยอรมันส่วนใหญ่ไม่ให้ถุงใส่ ต้องซื้อ
  -ถ้าไปในช่วงที่หนาวจัด ต่ำกว่า 10 องศาเซลเซียส ควรมีเสื้อหนาว ถุงมือ ถุงเท้า ให้เพียงพอ นอกจากนี้พลาสเตอร์ร้อน เช่น Therma plast แปะช่วยคลายหนาวได้
  -โลขั่นสำหรับคนผิวแห้ง โลชั่นบำรุงมือ (HAND CREAM) โดยเฉพาะช่วงหน้าหนาว เพราะโดยธรรมชาติผู้สูงวัยผิวจะค่อนข้างแห้งอยู่แล้ว
  -ร่มป้องกันแดด ฝน หิมะตก
• สำหรับผู้ที่พาผู้ใหญ่นั่งรถเข็นเดินทางไปกันเองไม่ได้ใช้บริการบริษัทท่องเที่ยว
  -ควรจองโรงแรมที่อยู่ใกล้สถานีรถไฟกลาง เพราะการเดินทางในเมืองที่จะไปส่วนมากใช้บริการรถไฟฟ้าใต้ดิน รถไฟฟ้าเป็นส่วนใหญ่ นอกจากนี้ควรมีสมาร์ทโฟนพร้อมอินเตอร์เนตไว้บอกวิธีการเดินทาง เวลาเดินทาง และบอกเส้นทาง จะสะดวกมาก และควรวางแผนการเดินทางให้ละเอียดก่อนไป
  -สัมภาระควรจัดที่จำเป็นเพื่อสะดวกในการขนกระเป๋าเดินทาง เวลาต้องย้ายโรงแรม
  -สำหรับผู้สูงวัย นอกจากรถเข็นเดินทางแล้ว ไม้เท้าพับได้สำหรับสลับเวลาไม่นั่งรถเข็นเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้เดิ นสะดวก มั่นคง ปลอดภัย   

  

 

 มิวนิค

มิวนิค เป็นรัฐแรกที่พาผู้ใหญ่นั่งรถเข็นเที่ยว ถ้าไปหลายคนอาจใช้วิธีเช่ารถ แต่ถ้าไป2-4คน สามารถเดินทางโดยรถไฟใต้ดิน รถราง และรถโดยสารได้ ที่นี่ถ้าเป็นรถไฟใต้ดิน สถานีใหญ่ จะมีลิฟไว้อำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้รถเข็นผู้สูงวัย รถเมย์ก็เช่นกัน ถ้ามีผู้ใช้รถเข็นคนชรา รถเข็นคนไข้ จะมีระบบ hydrolic เอียงด้านคนขึ้นลง ทำให้ง่ายต่อการขึ้นรถ จะเห็นคนสูงอายุใช้รถเข็นจำนวนมาก บางท่านสามารถใช้รถเข็นเดินทางได้ด้วยตนเอง

พระราชวังเรสซิเดนซ์ (Residentz) มีชื่อเสียงมากที่สุดในมิวนิค เป็นที่ประทับและศูนย์กลางอำนาจของกษัตริย์บาวาเรียนมานาน  มีห้องที่เปิดให้ชม 130 ห้อง จัดแสดงสมบัติล้ำค่ามากมาย

 

[Slideshow "german-residentz" not found]

 

มีห้องที่เป็น ไฮไลท์หลายห้องซึ่งควรพาผู้ใหญ่นั่งรถเข็นเดินทางชม  เช่น  antiquarium ห้องโถงสไตร์เรอเนสซองค์ที่สวยงาม , ห้อง Ahnengaleerie ห้องตกแต่งด้วยไม้แกะสลักปิดทอง ประดับภาพสมาชิกบรรพบุรุษของราชวงศ์วิทเทลส์บาค
นอกจากนี้มีห้องสะสมของโบราณ เครื่องประดับ มงกุฎกษัตริย์บาวาเรีย

ควรให้เวลาในการพาผู้ใหญ่นั่งรถเข็นชมพระราชวังเรสซิดเดนซ์ ไม่ต่ำกว่า 3 ชั่วโมง เพราะเป็นสถานที่สำคัญของมิวนิค และ สวยงามมาก

 

จัตุรัสมาเรียนพลัททซ์ (จัตุรัสแม่รี่)

จัตุรัสมาเรียนพลัทซ์หรือจัตรัสแมรี่ อยู่ใจกลางเมืองมิวนิค ประกอบด้วย วิหารเฟราเอ่นเคียร์เช่อ,Mariensaule รูปปั้นทองคำพระแม่มารีีอุ้มพระบุตร,ศาลาว่าการเมืองใหม่ จุดเด่นที่ Glockenspiel หอระฆังปลาายแหลมที่มีรูปนาฬิกา ตุ๊กตาออกมาเต้นระบำทุก11.00น.,น้ำพุปลา,โบสถ์ซังต์เพทอร์ เหมาะจะพาผู้ใหญ่นั่งรถเข็นเดินทางไปเที่ยว

สำหรับโปรแกรมการเที่ยวจัตรัสแมรี่ ควรจัดเวลาใกล้ 11.00 น. จะได้ไม่พลาดการแสดงของตุ๊กตาเต้นรำ  แถวบนเป็นตุ๊กตาของเหล่าอัศวินประลองยุทธ์ในพิธีอภิเษกของ ดยุควิลเฮล์มที่5 กับ เจ้าหญิงแห่งลอร์แรน กลางจัตุรัสในปี 1568  ส่วนแถวล่างเป็นตุ๊กตาเต้นรำของชาวมิวนิคที่ฉลองการสิ้นสุดของกาฬโรคในปี 1515-1517 น. เป็นอีกที่เที่ยวที่ไม่ควรพลาดในการพาผู้ใหญ่นั่งรถเข็นเดินทางเที่ยว และชมการเต้นรำของตุ๊กตา

 

  Frauenkirche

วิหารเฟราเอ่นเคียร์เช่อ (Frauenkirche) มหาวิหารแห่งมิวนิค หรือโบถส์พระแม่มาเรีย โบสถ์พระแม่มาเรีย เป็นโบสถ์นิกายคาธอลิค ซึ่งเป็นสัญญลักษณ์ของเมืองมิวนิค มีหอคอยคู่รูปโดมทรงหัวหอม 99 เมตร ภายในตรงพื้นโถงทางเข้าจะเห็น รอยเท้าปีศาจ ประทับอยู่บนแผ่นหินปูพื้นแห่งหนึ่ง มีตำนานเล่าว่าเกิดจากแรงกระทืบอย่างแรงของปีศาจที่เสียรู้มนุษย์ ที่ยอมให้สร้างโบสถ์ที่ไม่มีหน้าต่างเพื่อมนุษย์จเข้ามาสวดมนต์ไม่ได้  แต่เมื่อสร้างเสร็จ ผนังด้านข้างของโบสถ์กลับมีหน้าต่างบานใหญ่เต็มไปหมด ห้องใต้ดินของโบสถ์เป็นสถานที่ผังพระศพของกษัตริย์และสมาชิกราชวงศ์วิทเทลส์บาคถึง 46 พระองค์ รวมถึงพระเจ้าลุควิกที่ 3 กษัตริย์องค์สุดท้ายแห่งราชวงศ์ เปิดให้ชมฟรีทุกวัน เวลา 7.00น.-19.00น.

[Slideshow "frauenkirche" not found]

 

พระราชวังนิมเฟนเบิร์ก ( Nymphenburger Schloss ) พระราชวังฤดูร้อน มิวนิค ประเทศเยอรมนี

พระราชวังนิมเฟนเบิร์กเป็นสถาปัตยกรรมแบบบาร็อคตอนปลาย เป็นตำหนักฤดูร้อนของเหล่าเจ้าชายและกษัตริย์บาวาเรีย ในวังมีภาพวาดที่เพดานในห้องโถงใหญ่ เป็นกิจกรรมของนางเทพธิดาที่ถวายบังคมตัวเองให้กับเจ้าแม่่ฟลอร่า ภาพนี้ถือเป็นสุดยอดของศิลปะโรโคโคในแคว้นบาวาาเรีย ห้องที่น่าชมยังมีห้องสาวงามมของพระเจ้าลุควิกที่1 มีภาพวาดของสตรีเลอโฉมชาวบาวาเรียน 36 คน  ห้องประสูติพระเจ้าลุควิกที่2 ห้องจัดเลี้ยง ห้องบรรทม พิพิธภัณฑ์ราชรถ รวมทั้งตำหนักเล็กๆอีก  3 แห่งในสวนกว้างด้านหลังวัง ตั๋ว Mehrtagesticket เข้าชมฟรีทั้งราชวังและสวน  นอกจากนี้ทางเดินระหว่างทางก่อนเข้าชมวัง มีทิวทัศน์สวยงามมาก มีสระน้ำทอดยาวจากปากทางจนถึงราชวัง เหมาะอย่างยิ่งที่จะพาผู้ใหญ่นั่งรถเข็นเดินทางเที่ยว ชมทิวทัศน์ และชมความงดงามของวัง

[Slideshow "nymphenburger-schloss" not found]

 OLYMPIC STADIUM

 

สนามกีฬาโอลิมปิค 1972 -มิวนิค

เป็นสนามกีฬาที่จัดงานโอลิมปิค ครั้งที่ 20 ในปี1972  ในครั้งนั้นได้เกิดเหตุการณ์ที่จารึกในประวัติศาสตร์ คือ เหตุการณ์สังหารหมู่นักกีฬาอิสราเอลในบ้านพักนักกีฬา ที่มิวนิค เมื่อปี 1972
สนามกีฬาแห่งนี้ที่สวยงามมาก ทั้งสิ่งปลูกสร้างและสวนอันใหญ่และร่มรื่น เปิดโอกาสให้ประชาชนได้เดินเที่ยว ออกกำลังกาย สำหรับผู้สูงวัย เหมาะอย่างยิ่งที่จะพาท่านนั่งรถเข็นผู้สูงวัยชมทิวทัศน์รอบสนามกีฬา หรือออกกำลังกายด้วยวิธีเดินด้วยจังหวะสม่ำเสมออย่างน้อยครึ่งชั่วโมงโดยใช้ไม้เท้าค้ำยันเพื่อกันล้ม (ในสนามกีฬานี้ มีผู้สูงวัยนิยมไปออกกำลังกายเดิน-เดินเร็ว โดยใช้ไม้ค้ำยัน 2 อันช่วยประคองกันล้มหลายท่าน)

 

 

[Slideshow "olympic-munich" not found]

 

 Fussen

 

Fussen

พาผู้ใหญ่นั่งรถเข็นเดินทางเที่ยว Fussen

จากมิวนิค นั่งรถไฟ สาย RB 57584 ไปที่เมือง fussen รอบเช้า 8.53น. ใช้เวลาเดินทางโดยรถไฟ 46 นาที ลงที่สถานี Buchloe ต่อจากนั้นเปลี่ยนขึ้นรถไฟ RB 57340 นั่งรถไฟประมาณ 1ชั่วโมง8นาที ลงรถไฟสุดทางที่สถานี Fusseเวลา 10.55น. ( หมายเหตุ สายรถไฟและเวลาอาจมีการเปลี่ยนแปลง ) จากนั้นนั่งรถเมย์สาย 78  ใช้เวลาประมาณ 10 นาที  รถเมย์จอดที่ป้ายปากทางเข้าสู่ปราสาท  ป้ายบอกทางจะเขียนว่า  Konigsschlosser เดินต่ออีกนิดเดียวจะถึงซุ้มขายตั๋ว  ซื้อตั๋ว ฺBayem-Ticket นั่งรถอีกประมาณ 15 นาที ก็ถึงหมู่บ้าน Hohenschwangau ซึ่งจะเห็น ปราสาทนอยชวานสไตน์ และ ปราสาท Hohenschwangau อยู่บนภูเขาอย่างชัดเจน

 

เนื่องจากมีเวลาชมปราสาทเพียงครึ่งวัน ดังนั้นจึงวางแผนเที่ยวภายในเฉพาะ ปราสาท Neuschwanstein และ พิพิธภัณฑ์ และเดินเที่ยวชมทิวทัศน์รอบๆ

เมื่อไปถึง เดินขึ้นเนินตามถนน AlpseestraBe ผ่าน Ticket center Neuschwanstein-Hohenschwangau ซื้อตั๋วเข้าชมภายในปราสาทได้ที่นี่ เช้าชมได้ทุกวัน เวลา 9.00-15.00น. ใช้เวลารอบละ 35 นาที ให้ระบุกับเจ้าหน้าที่ขายตั๋วไปว่าจะใช้ไกด์รอบภาษาอังกฤษ เผื่อเวลาขึ้นสู่ปราสาทบนยอดเขาประมาณ 1 ชั่วโมง สำหรับการชมปราสาทNeuschwanstein บางช่วงต้องเดินขึ้นบันได การพาผู้ใหญ่นั่งรถเข็นเดินทางชม ต้องเป็นผู้ใหญ่ที่สามารถเดินชึ้นบันไดได้ ใช้รถเข็นเดินทางสลับเวลาเดินชมทิวทัศน์ ภายนอก

 

 

 

 

 

สถานที่แรกทีพาผู้ใหญ่นั่งรถเข็นเดินทางเข้าชมคือ พิพิธภัณฑ์ der bayerischen Konige ระหว่างเดินจากที่ขายตั๋วไปสู่พิพิธภัณฑ์จะเห็นปราสาทในมุมต่างๆ สวยงามมาก

 

พิพิธภัณฑ์ der bayerischen Konige

สำหรับพิพิธภัณฑ์ การเข้าชมต้องเสียค่าเข้าอีก  ใช้เวลาชมในพิพิธภัณฑ์ประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นเดินชมทะเลสาบที่อยู่ใกล้ๆกับพิพิธภัณฑ์

ชมภายในปราสาท Neuschwanstein

การเข้าชมต้องนั่งรถขึ้นไปยังตัวปราสาท และเดินต่อขึ้นปราสาทอีกเล็กน้อย ระหว่างทางจะเห็นทิวทัศน์ด้านล่างสวยงามมาก

เมื่อขึ้นถึงตัวประสาท รอเข้าชมในตัวประสาทให้ตรงรอบ

หลังจากชมตัวปราสาทNeuschwanstein แล้ว ได้เวลากลับ โดยนั่งรถจากปราสาทกลับที่เดิม แล้วเดินต่อไปป้ายรถเมย์ เพือต่อรถเข้าเมือง Fussen เพื่อทานข้าวมื้อเย็นในเมือง และนั่งรถไฟต่อกลับมิวนิค

 

 

 

 

 

 

 เดรสเดิน

 

เดรสเดิน 

เมืองเดรสเดิน ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเอลเบอ เป็นเมืองหลวงของรัฐซัคเซิน  จุดเด่นของเมืองเดรสเดินอยู่ที่บริเวณเมมืองเก่าย่านใจกลางเมืองซึ่งได้รับการจดทะเบียนเป็นมรดกโลกด้านวัฒนธรรม เหมาะอย่างยิ่งที่จะพาผู้สูงวัยนั่งรถเข็นเดินทางเที่ยว

 

 

ชมเมืองเก่า บริเวณที่ล้อมรอบด้วยเส้นสีแดง

สำหรับเดรสเดน บริเวณที่จะพาผู้ใหญ่นั่งรถเข็นเที่ยว คืดบริเวณเมืองเก่า ซึ่งมีสถานที่สำคัญและสวยงามเหมาะพาผู้ใหญ่นั่งรถเข็นเที่ยวหลายแห่ง

 

 

-โรงละคร เซมเพอร์โอเพอร์ อยู่ที่จัตุรัส Theaterplatz กลางจัตุรัสมีรูปปั้นทรงม้าของกษัตริย์โยฮันน์ แห่ง แซกโชนี่  จัตุรัสโรงละครถือเป็นหนึ่งในจัตุรัสที่สวยที่สุดในยุโรป เป็นที่ตั้งของโรงละครโอเปร่า หน้าอาคารประดับด้วยรูปปั้นของเทพบุตรและเทพธิดาขี่รถเทียมเสือสี่ตัว ยอดอาคารประดับด้วยเทพธิดาแห่งเสียงพิณ รอบๆอาคารเป็นรูปปั้นโอเปร่าที่มีชื่อเสียง

-โบสถ์โฮฟ  Hofkirche  อยู่ตรงข้ามกับโรงละคร โบสถ์นี้มีทางเดินเป็นสะพานคล้าย Bridge of Sign ในเวนิส เชื่อมไปยังปราสาทเดรสเดนซึ่งอยู่ติดกัน

-โบสถ์ Frauenkirche หรือ Church of our Lady ผลงานระดับมาสเตอร์พีซในสไตล์บารอค ด้านหน้าโบสถ์มีรูปปั้น มาร์ตีน ลูเธอร์  ยืนถือคัมภีร์ไบเบิ้ล โบสถ์อยู่กลางจัตุรัสนอยมารค์ Neumarkt เป็นสัญญลักษณ์ของเมือง สร้างปี 1726-43 ส่วนที่เป็นสีดดำคือส่วนเดียวที่เหลืออยู่หลังจากที่ถูกระเบิดถล่มทำลาย เมื่อวันที่ 15/2/19945 ส่วนที่ไม่เป็นสีดำคือส่วนที่สร้างซ่อมแซม โบสถ์นี้จะมีลิฟไปถึงยอด ถ่ายรูปเมืองจากที่สูง ค่าขึ้นยอดโดม 8 ยูโร เปิด 10.00-12.00น. 13.00-18.00น. เป็นโบสถ์ที่มีเอกลักษณ์ของเดรสเดน เหมาะจะพาผู้ใหญ่นั่งรถเข็นเดินทางเที่ยว

[Slideshow "frauenkkirche" not found]

-กำแพงคอกม้าหลวง เฟอร์ซเตนซุก (Furstenzug)  บนกำแพงของคอกม้ามีภาพกระเบื้องเป็นรูปพระบรมวงษานุวงงศ์ 35 พระองค์ พร้อมเหล่าข้าราชบริพารในขบวนพาเหรดของราชสำนัก ต่อขึ้นในปี1906จากกระเบื้อง 2.4 หมื่นชิ้นบนกำแพงยาวกว่า 100 เมตร

 

-Radeburger – ร้านอาหาร ขนมเค็ก

ตั้งอยู่บริเวณเมืองเก่า เป็นร้านขายอาหาร เบเกอรี่ เครื่องดื่ม  ตกแต่งสวยงามมาก รสชาดอาหารและขนม อร่อย นอกจากนี้ในร้านยังขายของที่ระลึกต่างๆ เหมาะอย่างยิ่งที่จะพาผู้สูงวัยนั่งรถเข็นเที่ยว หลังจากเดินเที่ยวย่านเมืองเก่าแล้ว

 

[Slideshow "radeburger-dresden" not found]

-จัตุรัส ตลาดเก่า (Altmarkt Square)  จะเห็นกำแพงยาวที่มีรูปปั้น The Procession of Dukes (Fuerstenzug)
-Bruehl Terrace เป็นระเบียงยาวมาก มีต้นไม้ มีทางเดินให้ชมวิวเบื้องล่าง ขนานไปกับลำน้ำ  Elbe เป็นป้อมปราการของเมือง Dresden

[Slideshow "bruehl-terrace" not found]

-พระราชวัง Zwubger  (Der Dresdner Zwinger ) ตั้งอยู่ที่ ostplatz or Theaterplatz เป็นพระราชวังที่ประกอบด้วยอาคารล้อมรอบพื้นที่ว่าง (Zwinger แปลว่าช่องว่างที่อยู่่ระหว่าง ) เป็นที่สำหรับจัดงานแข่งขันการเป็นอัศวิน และจัดกิจกรรมต่างๆ มีแกลลอรี่และพิพิธภัณฑ์อาวุธโบราณและเสื้อเกราะ บริเวณภายนอกเปิดให้ชมฟรี แต่การชมพิพิธภัณฑ์และแกลอรี่ต้องเสียค่าชม เช่น พิพิธภัณฑ์ Pozzzellansammlung จัดแสดงคอลลเลคชั่นเครื่องกระเบื้องเคลือบสมัยราชวงค์หมิงและชิงจากจีน รวมทั้งเครื่องกระเบื้องจากญี่ปุ่น เกาหลี ซึ่งเป็นสมบัติสะสมของพระเจ้าเอากุสสตุส ตั้งแต่ปี 1715

 

 ปราก

เดินทางจากเดรสเดนสู่ปราก เที่ยวที่ปรากแบบ one day trip กลับมานอนที่เดรสเน

การเดินทางจากเดรสเดนสู่่ปราก ใช้การเดินทางโดยรถไฟ IC60470 เวลา 7.08น. ใช้เวลา 2 ชั่วโมง ถึงปราก สถานีรถไฟกลาง Praha Hlavni Nadrazi , Praha hi n.เวลา 9.08 น. ที่สถานีหลักนี้อยู่ห่างจากจัตุรัสเวนเซซสลาส์  (Wenceslas squar) เพียง 5 นาที (เดิน ) และมีรถไฟใต้ดินสาย C เชื่อมต่อกับส่วนต่างๆของเมือง มีสำนักงานแลกเปลี่ยนเงินตรา ร้านอาหาร ร้านค้าปลีก

เมืองปรากขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองที่โรแมนติกอีกเมืองของโลก ได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกด้านวัฒนธรรม เนื่องจากประกอบด้วยสถาปัตยกรรมอันเก่าแก่และงดงาม ทั้งปราสาท อาคาร สะพาน โบสถ์  เป็นเมืองหลวงของสาธารณเช็ก

สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองปราก มีหลายแห่ง เช่น ปราสาทปราก (Praque casttle) , สะพานชาร์ลส์ ( Charles Bridge ) , จัตุรัสเมืองเก่า ( Old Town Square ) , พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ แต่เนื่องจากทริปนี้มีเวลาอยู่ที่ปรากแค่ 1 วัน จึงเลือกพาผู้ใหญ่นั่งรถเข็นเดินทางเที่ยวเฉพาะ ที่ มหาวิหาร เซนต์วิดุส ( St.Vitus Caathedral ) ซึ่งตั้งอยู่ภายในกำแพงที่ล้อมรอบปราสาทแห่งกรุงปราก ( Praque Castle ) , สะพานชาร์ลส์ และ จัตุรัสเมืองเก่า ซึ่งถือว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดเมือมาเยือนปราก

ปราสาทแห่งกรุงปราก ( Praque Castle ) ตั้งอยู่บนเนินเขา สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่9 เคยเป็นที่ประทับของเรื่อยมา จนปัจจุบันใช้เป็นทำเนียบประธานาธิปดี ภายในกำแพงปราสาท ประกอบด้วย พระราชวัง วิหาร  วัด ถนนอุทยาน และหอคอย แต่เนื่องจากเวลามีจำกัด จึงเข้าชมเฉพาะมหาวิหาร เซนต์วิดุส ( St.Vitus Caathedral )

มหาวิหาร เซนต์วิดุส ( St.Vitus Caathedral )  เป็นมหาวิหารสไตล์โกธิกที่ใหญ่สุดของกรุงปราก พระเจ้าชาร์ลส์ที่4 ทรงโปรดให้สถาปนิกชาวผรั่งเศษ Matthew of Arras สร้างขึ้นในปีคศ.1344 การก่อสร้างในช่วงแรกยังไม่สมบูรณ์ และมีการก่อสร้างเรื่อยมาหลายร้อยปีจนเสร็จสมบูรณ์ในปี 1929 นับว่าเป็นวิหารที่เก่าแก่ สวยงาม เหมาะจะพาผู้ใหญ่นั่งรถเข็นเดินทางเที่ยว

[Slideshow "plaque-st-vitus" not found]

ภายในมหาวิหาร จะเห็นกระจกสีสวยงาม เป็นรูปภาพเกี่ยวกับศาสนาคริสต์ และรูปภาพของนักบุญต่างๆ และที่สำคัญคือ ภายในมหาวิหารยังเป็นที่ไว้พระศพของบรรดากษัตริย์สำคัญในอดีต รวมถึงพระศพของพระเจ้าชาร์ลส์ที่4

 

สะพานชาร์ลส์ ( Charles Bridge )     เป็นสะพานเก่าแก่ที่สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1357 ในสมัยพระเจ้าชาร์ลส์ที่4 มาเสร็จสมบูรณ์ในต้นศตวรรษที่15 เพื่อแทนที่สะพานจูดิธซึ่งสร้างมาตั้งแต่ศตวรรษ ที่ 12 ทอดข้ามแม่น้ำวัลตาวาที่เชื่อมระหว่าง Old Town และ Little Town  มีความยาว 520 เมตร กว้าง 10 เมตร มีตอหม้อค้ำยัน 16 ตอ จุดเด่นของสะพานนี้คือรูปปั้นโลหะของเหล่านักบุญสไตล์บารอกที่ตั้งอยู่่สองข้างสะพานราว 30 องค์ จุดเด่นอยู่ที่รูปปั้นของเซนต์จอห์น เนโปมุก ( St.John Nepomuk ) ซึ่งเป็นรูปปั้นที่เก่าแก่ที่สุดบนสะพาน สร้างขึ้นเมือปี ค.ศ.1683 สองข้างของสะพานระหว่างเดินข้ามจะเห็นทิวทัศน์ริมแม่น้ำของเมืองปรากงดงามมาก  สะพานนี้เปรียบเสมือนเป็นอีกสัญญลักษณ์หนึ่งของกรุงปราก

[Slideshow "8569" not found]

 Heidelberg

ไฮเดลแบร์ก – Heidelberg

ไฮเดลแบร์ก – Heidelberg เป็นเมืองมรดกโลก มีบรรยากาศสวยงาม ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเน็คคาร์ เป็นเมืองที่เหมาะพาผู้ใหญ่นั่งรถเข็นเดินทางเที่ยวชม เพราะมีสถานที่เที่ยวหลายแห่งที่สวยงามและเก่าแก่ เช่น ประสาทไฮเดลแบร์ก จัตุรัส Marktplatz จัตุรัสมหาวิทยาลัย เป็นต้น

–ปราสาทไฮเดลแบร์ก Schloss Heidelberg
ปราสาทเก่าแก่ สร้างโดยรูเพรชท์ที่3 ใช้เวลาสร้างนานถึง 400ปี  มีกระเช้าขึ้น-ลงเขาแบร์กบาห์น (Bergbahn Funicula) จากสถานี Bergbahn Kommarkt ถึงสถานี  Schloss  ถึงตัวปราสาททางด้านหลัง  สะดวกต่อการพาผู้ใหญ่ที่นั่งรถเข็นเดินทางชมตัวประสาท
-เริ่มจากชมวิวทิวทัศน์เเมืองทางระเบียงฝั่งตะวันตกของประสาท รวมทั้งเห็นสะพานเก่าอัลเทอบรึคเคอ (Altee  Brucke)

พอผ่านประตูใหญ่เข้าไป จะเห็นรูเพรชท์เบา (Ruprechtsbau) อาคารส่วนที่เก่าแก่ที่สุดของปราสาท
-รูเพรชท์เบา (Ruprechtsbau) อาคารส่วนที่เก่าแก่ที่สุดของปราสาท ตั้งอยู่ทางด้านซ้ายมือ เคยเป็นที่พำนักของเจ้าผู้ครองนครผู้สร้างปราสาท
-ฟรีดริชเบา (Friedrichbau) อยู่ทางเหนือ มีมุขหน้าที่สวยงามโดดเด่นตามสไตล์เรอเนสซองซ์ ด้วยการประดับรูปสลักกษัตริย์เยอรมันตระกูลวิทเทลส์ 16 พระองค์
-ห้องเก็บถังไวน์ เป็นห้องทางซ้ายมือของตึก โดยเดินผ่านทางลาดลงไป ภายในจะมีถังบรรจุไวน์ ซึ่งเป็นถังหมักไวน์ที่ใหญ่ในโลก ขนาดบรรจุ 222,0002 ลิตร และมีรูปปั้นแปร์เคโอ  ตลกหลวงร่างเล็กรับหน้าที่เป็นผู้ดูแล
-พิพิธภัณฑ์ยาเยอรมัน ( Deutches Apotheken  Museum )  แสดงเรื่องการพัฒนาปรุงยา ห้องยาสมัยโบราณ การค้นพบยา aspirin  ห้องนี้เป็นห้องที่สวยมาก มีประวัติศาสตร์เกี่ยวกับร้านยา การปรุงยา น่าดูมาก เหมาะที่จะพาผู้ใหญ่นั่งรถเข็นเดินทางเที่ยวชม
-การเดินชมทิวทัศน์รอบๆประสาท ร่มรื่นและสวยงาม เหมาะจะพาผู้ใหญ่นั่งรถเข็นเที่ยว

 

 

[Slideshow "schloss-heidelberg" not found]

 

–เขตเมืองเก่า

จากปราสาทลงมาถึงด้านล่าง ซึ่งสามารถลงโดยเดินตามทางลง หรือ นั่งรถไฟลง ซึ่งจะสะดวกกว่า กรณีที่มีผู้ใหญ่นั่งรถเข็นเดินทางไปด้วย

[Slideshow "heidelberg-old-town" not found]

-จัตุรัส Marktplatz ด้านขวามือเป็นที่ตั้งของ โรงแรม Haus Aum Ritter ปัจจุบันมีคุณค่าทางสถาปัตกรรมมาก

-สะพาน Alte Bruke จากโรงแรมเดินทะลุซอยข้างโบสถ์ Heiliggeistkirche ที่หัวสะพานจะเห็นซุ้มประตูสีขาวสองต้นเด่นเป็นสง่า ด้านซ้ายมือมีรูปปั้นบรอนซ์รูปลิงหัวกลวง มือถือกระจก เชื่อกันว่าถ้าเอามือแตะกระจกจะร่ำรวย หากแตะนิ้วจะได้กลับมาอีก เดินข้ามสะพานไปอีกฟากเพื่อถ่ายรูปปราสาทซึ่งสวยงามมาก เป็นอีกสะพานที่ควรพาผู้ใหญ่นั่งรถเข็นเดินทางเที่ยวชม

-จัตุรัสมหาวิทยาลัย Universitatplatz จากสะพานเดินตามถนนเฮาพท์ Hauptstrasse ถนนคนเดินเพื่อเข้าสู่ใจกลางเขตเมืองเก่า ประมาณ 1 กิโลเมตร ที่จัตุรัสนี้จะเห็นรูปปั้นสิงโตตั้งอยู่บนยอดเสาเหนือน้ำพุ อาคารที่ตั้งอยู่หลังน้ำพุคือตึกมห้าวิทยาลัยเก่า Alte universitat สร้างตั้งแต่ ศต.18 ภายในมีพิพิธภัณฑ์มหาวิทยาลัยและหอประชุมเก่าให้ชม ตกแต่งสวยงามด้วยศิลปะนีโอเรอเนสซองซ์ ด้านหลังมหาวิทยาลัยตึกเก่ามีทางเข้า คุกนักศึกษา ซึ่งระหว่างปี 1778-1914 เป็นที่กักตัวนักศึกษาที่ทำผิดวินัย ประพฤติเสื่อมเสียในที่สาธารณะ การเข้าชมภายในต้องเสียค่าเข้าชม เป็นอีกสถานที่ทีเหมาะจะพาผู้ใหญ่นั่งรถเข็นเที่ยวเดินทาง

-โบสถ์ Providenzkirche อยู่ใกล้บริเวณจัตุรัสมหาวิทยาลัย โดดเด่นด้วยยอดหอระฆังที่มองเห็นแต่ไกล ภายในมีออร์แกนใหญ่และภาพเขียนกระจกสีสวยๆ

-ถนนคนเดินชมร้านค้าต่างๆ พร้อมร้านอาหาร เดินตรงไปยังจัตุรัสกว้างศูนย์กลางขนส่งมาลชนของเมือง รถบัส รถรางเกือบทุกสายวิ่งผ่านที่นี่ มีป้ายบอกสายรถเมย์ชัดเจน  มีห้างสรรพสินค้าใหญ่ตั้งประจันอยู่คนละด้าน คือ Galeria Karfhof และ Woolworth สามารถพาผู้ใหญ่นั่งรถเข็นเดินนั่งรถรางสาย 5.21ที่ัป้าย Bismarck Platzกลับไปยังสถานีรถไฟ

เพื่อนั่งรถไฟกลับ แฟรงค์เฟิร์ต ได้

 

รถเข็นเดินทางรุ่นต่างๆ

รถเข็นเดินทาง-travelwheelchair